ปีนี้ เรื่องสุขภาพกลายเป็นเรื่องที่คนให้ความสนใจมากที่สุด อาจารย์ คฑา ชินบัญชร ได้พูดถึงราศีที่ในช่วงนี้อ่อนไหวง่ายเป็นพิเศษด้านสุขภาพ จะเป็นสุขภาพด้านใดบ้าง มาหาคำตอบได้ที่นี่
อาจารย์ คฑา ชินบัญชร พูดถึงสุขภาพของแต่ละราศี โดยราศีที่ในช่วงนี้อ่อนไหวง่ายเป็นพิเศษด้านสุขภาพ คือ ราศีกุมภ์ ราศีตุลย์ และ ราศีมิถุน
ราศีมังกร (16 มกราคม-15 กุมภาพันธ์)
ปีนี้นับเป็นปีโชคดีของคนราศีมังกร ดาวเสาร์ และ ดาวพฤหัสบดี ตั้งแต่ช่วงนี้ไปดาวพฤหัสบดียกเข้าสู่ชาวราศีมังกร ทำให้เกิดความสำเร็จ ฉะนั้นจะไม่มีปัญหาเรื่องสุขภาพ ต้องระวังเรื่องอุบัติเหตุ และการเข้าไปเกี่ยวข้องกับอารมณ์ขึ้นลงของคนอื่น สุขภาพของคนราศีนี้ตนเองไม่มีปัญหาอะไร แต่ให้ระวังเรื่องสุขภาพของผู้ใหญ่ภายในบ้าน แนะนำให้ทำบุญกับคนชรา ทำบุญกับโรงพยาบาลเทียนฟ้ามูลนิธิ รวมถึงหมั่นดูแลพระในบ้าน นั่นคือ พ่อ แม่ จะช่วยได้ดี
ราศีกุมภ์ (16 กุมภาพันธ์-15 มีนาคม)
ชาวราศีกุมภ์ มีเรื่องของธาตุลม ต้องระวังภัยที่มากับอากาศ โรคติดต่อต่างๆ ราศีกุมภ์, ราศีตุลย์ และราศีมิถุน จะอ่อนไหวง่ายเป็นพิเศษ ดาวพุธเป็นดาวที่ดี ฉะนั้นจะเด่น ด้านการขาย การตลาด แม้จะพบวิกฤตโควิด-19 เขาก็ยังสามารถทำมาค้าขายได้คล่องกว่าราศีอื่นๆ แต่เหนือสิ่งอื่นใดต้องระวังเรื่องโรคภัยไข้เจ็บ อย่าง โรคไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์เอ, โรคหวัด และภูมิแพ้ วิธีแก้ไข แบบง่ายๆ สบายๆ ก็คือ ให้ทำบุญเติมน้ำมันตะเกียง ทำบุญกับโรงพยาบาลที่เกี่ยวเนื่องกับภูมิแพ้ ทางเดินหายใจ และผู้ป่วยที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจทั้งหมด
ราศีมีน (16 มีนาคม-15 เมษายน)
ราศีมีน ดาวอาทิตย์ยกเข้าในช่วง 14 มีนาคม ให้พยายามพาตนเองออกไปรับแสงแดดบ้าง ให้ระวังภัยที่มาจากอาหารการกิน รวมถึงต้องดูแลอย่างมากในเรื่องความสะอาดของน้ำดื่ม ถ้าเป็นน้ำดื่มแบบบรรจุขวดที่เราเก็บไว้นรถ หลังเปิดขวดแล้ว ไม่ควรเก็บนาน เพราะเวลาเรายกขวดดื่ม จะมีน้ำลายเราติดตรงปากขวด เมื่อทิ้งเวลาไว้นาน อาจเพาะเชื้อจากน้ำลายของเราเองได้ ฉะนั้น เปิดทานแล้วไม่ควรเก็บนานเกิน 2 วัน เพื่อสุขอนามัย หากเป็นภาชนะส่วนตัว ให้ดูแลทำความสะอาดภาชนะที่ใส่น้ำให้ดีด้วย ทำความสะอาดบ่อยๆ ต้องระวังโรคภัยไข้เจ็บที่มากับน้ำ โรคที่เกี่ยวข้องกับกระเพาะปัสสาวะ และไต
ราศีเมษ (16 เมษายน-15 พฤษภาคม)
เป็นราศีที่ค่อนข้างมีพลัง ไม่ค่อยจะเป็นอะไรง่ายๆ แต่ต้องระวังเรื่องกระเพาะอาหาร, ลำไส้, ท้องผูก, ท้องเดิน, ท้องเฟ้อ, ท้องเสีย และที่เกี่ยวกับทางเดินอาหาร รวมถึงพวกโรคภัยไข้เจ็บของกล้ามเนื้อ และ กระดูก ควรทำบุญเกี่ยวกับเรื่อง กระดูก อุบัติเหตุ กับมูลนิธิต่างๆ อย่าง มูลนิธิร่วมกตัญญู มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เป็นต้น
ราศีพฤษภ (16 พฤษภาคม-15 มิถุนายน)
ชาวราศีพฤษภต้องระวังเรื่องผิวหนัง, กล้ามเนื้อ, เส้นเลือดหัวใจ และการติดเชื้อในกระแสเลือด ต้องดูแลตนเองให้ดี ให้ระวังที่สุด อย่าคิดว่าแค่เป็นแผลนิดเดียวเท่านั้น นิดเดียวนี่แหละ ที่อาจทำให้ติดเชื้อในกระแสเลือดได้เลย แม้แต่แผลจากการโกนหนวดก็ต้องระวัง ให้ทำบุญตามโรงพยาบาลหรือคลินิก ผู้ป่วย ที่เกี่ยวกับโรคผิวหนังทั้งหมด อาทิ โรคเลือด, โรคเรื้อน, โรคผิวหนังสะเก็ดเงิน เป็นต้น
ราศีมิถุน (16 มิถุนายน-15 กรกฎาคม)
ชาวราศีมิถุนเป็นธาตุลม ช่วงนี้โชคดี ดาวเสาร์ยกออกจากราศีธนูไปอยู่มังกร ธนูจะเล็งมิถุน เท่ากับดาวเสาร์ไม่ไปเล็งมิถุนแล้ว ฉะนั้น ชาวราศีมิถุนจะสบายใจขึ้นในหลายๆ เรื่อง มีเรื่องให้หงุดหงิดใจบ้าง แต่ก็จะมีความสุข แก้ไขปัญหาไปได้ จากที่เคยเสียเงินเรื่องซ่อมรถ ซ่อมบ้าน ก็จะไม่มีแล้ว แต่จะเสียเงินในเรื่องของระบบทางเดินหายใจ สิ่งที่ต้องเช็คมากที่สุดเลย คือ เรื่องของปอด และ ต้องระวังเรื่องโรคติดต่อทางผิวหนังด้วย ฉะนั้น ต้องดูแล 2 เรื่องที่กล่าวมาเป็นพิเศษ ถ้ามีโอกาสให้ร่วมทำบุญกับโรงพยาบาลที่เกี่ยวกับปอด หรือ คนที่ป่วยเกี่ยวกับปอดก็จะยิ่งดี หรือ บริจาคให้กับโรงพยาบาลที่เกี่ยวกับเด็ก ช่วยส่งพลังให้กับชีวิตได้ดี
ราศีกรกฎ (16 กรกฎาคม-15 สิงหาคม)
สำหรับชาวราศีกรกฎ ดาวเสาร์ไปอยู่ในราศีมังกร และเล็งราศีกรกฎที่อยู่ตรงข้ามกัน คนที่เกิดราศีกรกฎ จะมีเรื่องวุ่นวายเข้ามาในชีวิต จะมีงานเข้ามาเยอะมาก ทำงานทุกวัน ต้องเดินทางตลอด จะมีเรื่องหงุดหงิดกังวลใจเกี่ยวกับเรื่องการเดินทาง ต้องระวังเรื่องสุขภาพมาก อาจมีเรื่องของเส้นเสียง อย่างเช่น เสียงหาย, เสียงแหบ, เจ็บคอ ให้รู้จักถนอมเสียง ไม่ตะเบ็งเสียง รวมถึงจะมีเรื่องสายตาเข้ามาด้วย ฉะนั้น อย่าใช้มือถือในที่มืด สายตาอาจส่งผลกระทบเวลาขับรถได้ให้ระวัง ให้ทำบุญอย่างถวายสังฆทาน ควรเป็นยาอมแก้เจ็บคอ, ยาแก้ไอ และ ทำบุญเกี่ยวกับดวงตาที่โรงพยาบาลที่เกี่ยวกับสายตา มูลนิธิคนตาบอด
ราศีสิงห์ (16 สิงหาคม-15 กันยายน)
ชาวราศีสิงห์เป็นคนดวงดี เด่นที่สุดเรื่องการแต่งตัว ดูเหมือนหยิ่งๆ เป็นตัวของตัวเองสูง อีโก้สูง ส่งผลให้เวลาเขาไม่สบาย เขาจะไม่ค่อยไปโรงพยาบาล เพราะคิดว่าตนเองสบายดี จึงทำให้พอรู้ตัวอีกทีก็คือไม่สบายหนักแล้ว อย่าชะล่าใจโดยเด็ดขาดไม่เช่นนั้นเรื่องเล็กๆ จะกลายเป็นเรื่องใหญ่
ราศีกันย์ (16 กันยายน-15 ตุลาคม)
ชาวราศีกันย์ถึงจะมีเจ็บป่วยบ้าง แต่ราศีนี้จะตรงข้ามกับราศีสิงห์ คือ เป็นโรควิตกจริต กังวลไปหมด ไม่ใช่กังวลกับตนเองคนเดียวแต่รวมถึงคนรอบข้างด้วย เป็นคนที่ละเอียด ดูแลสังเกตตนเองและคนใกล้ชิดรอบข้างได้ดี รวมถึงจะคอยบอกกระตุ้นให้คนอื่นไปหาหมออีกด้วย ต้องระวังเรื่อง กล้ามเนื้อ, กระดูก, เหน็บชา, เวียนหัว, ความดัน ไม่มีเรื่องโรคร้ายแรงอะไร ให้ทำบุญที่เกี่ยวข้องกับเด็กกำพร้า หรือทำบุญกับน้องๆ เด็กพิเศษทางร่างกายก็ได้ เป็นการสร้างทานบารมีที่ดี
ราศีตุลย์ (16 ตุลาคม-15 พฤศจิกายน)
ชาวราศีตุลย์จะเป็นคนรักษาสมดุลของชีวิต นั่นคือ เที่ยว, กีฬา, สุรา, คลีน รักษาสมดุลของชีวิตได้อย่างดี แต่ต้องระวังเรื่อง ระบบทางเดินหายใจ, ปอด, หลอดลม, ช่องท้อง, ระบบทางเดินอาหาร เช่น ทานสำลัก ทอนซินอักเสบ ลิ้น ฟัน เพดานปาก ต้องดูแลให้ดีเป็นอย่างมาก ทำบุญปรับสมดุลของธาตุ โดยให้บริจาคเป็น ค่าน้ำ-ค่าไฟ ให้กับโรงพยาบาลต่างๆ เป็นใช้ได้
ราศีพิจิก (16 พฤศจิกายน-15 ธันวาคม)
เป็นราศีที่ต้องระมัดระวังเรื่องสุขภาพ 2 เรื่อง คือ เส้นเลือด และ สมอง จะเวียนหัวบ่อย หน้ามืด ช่วงข้อเท้ากับข้อเข่าเวลาก้าวเดินก็ต้องระมัดระวังให้ดี ราศีนี้เด่นมากด้านงานในปีนี้เสริมทั้งจากดาวพฤหัสบดี ดาวศุกร์ และดาวพุธ ฉะนั้น ควรกินอาหารมีประโยชน์ แล้วพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะชาวราศีนี้เวลาทำอะไร จะตั้งใจมาก ทุ่มเทมาก จนเครียด ให้ระวังเรื่อง เส้นเลือด หัวใจ ความดัน การนอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ
ราศีธนู (16 ธันวาคม-15 มกราคม)
ชาวราศีธนูเป็นคนที่พุ่งตรงสู่เป้าหมาย เป็นคนไม่ค่อยดูแลสุขภาพตนเอง ถ้าเป็นหมอจะมุ่งไปดูแลสุขภาพคนอื่นให้ดีที่สุด ถ้าไม่ได้เป็นหมอและไม่ได้มีความสนใจในเรื่องสุขภาพ ก็จะไม่ใส่ใจในสุขภาพเลย มัวแต่ไปมุ่งอยู่กับเป้าหมายของชีวิต ทุ่มเทสิ่งใดก็จะมุ่งไปทางด้านนั้น แม้ตอนนี้ดาวเสาร์จะย้ายออกไปแล้วก็ตาม แต่จะย้ายกลับมาในช่วงปลายปี ฉะนั้นต้องระวังสุดๆ 2 เรื่อง คือเรื่องอุบัติเหตุจากการเดินทางและเรื่องสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับกล้ามเนื้อ, ผิวหนัง, กระดูก เช่น บาดแผลจากของมีคมต่างๆ แนะนำให้ทำบุญกับตึกอุบัติเหตุ โรงพยาบาลทหารผ่านศึก โรงพยาบาลตำรวจตระเวนชายแดน ทำบุญที่เกี่ยวข้องกับคนที่เป็นทหาร ตำรวจ จะดี
เรื่องเล่าเคล็ดลับจากอาจารย์คฑาอาจารย์คฑา เล่าว่า คุณยายของอาจารย์อายุ 97-98 ปี เป็นคนแข็งแรงมาก กินทั้ง ข้าวเหนียวทุเรียน ส้มตำ เคยเป็นมะเร็งเต้านม ผ่าตัดไปแล้ว 1 ข้าง แต่ทุกวันนี้ยังคงแข็งแรง เมื่อตอนคุณยายอายุ 66 ปี ต้องฉีดคีโมและฉายแสง มีอาการคือ คลื่นไส้อาเจียน กินอะไรไม่ได้ คุณยายจะสวดมนต์และพูดเสมอว่า
"ข้าพเจ้า...ขอถวายบุญกุศลให้แก่เทวดารักษาตัวของข้าพเจ้า และอุทิศบุญให้กับมะเร็งขอให้อยู่กับยายนานๆ นะลูก ถ้ายายตายหนูก็ตายนะ ถ้าอยากอยู่กับยายไปนานๆ ก็อย่าให้ยายกินอะไรไม่ได้นะ หนูอยากกินอะไรบอกยายเลย ยายอยากกินข้าวเหนียวมะม่วง.."
อาจารย์คฑา กล่าวว่า คุณยายน่ารักพูดกับโรคที่ท่านเป็นแบบนั้น แล้วยังไม่ได้เป็นโรคเดียว เป็นทั้งเบาหวาน ความดัน ต้อที่ตา แต่สุดท้ายแล้วท่านก็ยังอยู่แข็งแรงดีมาจนถึงทุกวันนี้ ฉะนั้น โรคภัยเป็นเรื่องของกรรม ไม่ว่าจะเป็น แบคทีเรีย เชื้อรา โพรโทซัว ยีสต์ ไวรัส "ทั้งหมดนี้มีชีวิตหมดนะ เรากับเขาอาจเคยทำกรรมกันมาก่อน การที่เราส่งความรู้สึกดีอุทิศกุศลให้เชื้อโรค เด็กๆ อาจารย์คิดว่าตลกนะ แต่ตอนนี้มาเห็นยายตัวเองท่านทำแล้วเห็นผลจนตอนนี้ 98 แล้ว เช็คสุขภาพออกมาทุกอย่างดี บางทีการคิดบวก จิตที่ให้อภัย จิตที่อยากแบ่งปัน อยู่กับมันได้อย่างมีความสุข โดยไม่คิดว่ามะเร็งคือตัวปัญหาของเขา ตรงนี้สามารถลองหยิบลองไปปฏิบัติได้"
สุดท้าย อาจารย์คฑาอวยพร ใครที่ไม่มีโรคก็ขออย่าให้มี ถ้าเป็นแล้วก็ขอให้อยู่กับมันอย่างมีความสุข เน้นดูแลตนเองให้ดี คนเราหนีความตายไปไม่พ้น ทำอย่างไรก็ได้ให้ทุกวันระลึกนึกถึงความตาย แล้วเราจะตายอย่างไม่กลัวตาย แล้วเราจะอยู่อย่างมีความสุข